ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ
ใครหลายคนอาจไม่รู้ว่าระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟจะส่งผลต่อรสชาติเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องเรียนรู้ถึงความแตกต่างที่ละเอียดอ่อน เพียงแค่อุณหภูมิที่แตกต่างกันสามารถทำให้รสชาติของเมล็ดกาแฟ เปลี่ยนแปลงได้ ทาง COFFHUB นำความรู้ความแตกต่างของระดับการคั่วเมล็ดกาแฟโดยระดับการคั่วกาแฟแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1. การคั่วอ่อน (Light roast coffee)
คั่วอ่อนมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนและมีรสชาติที่นุ่มนวลกว่า โดยยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟไว้มากขึ้น โดยมีความเป็นกรดสูงกว่าและมีกลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน โดยทั่วไปแล้วการคั่วระดับอ่อนจะใช้เวลาคั่วน้อยกว่าเพื่อรักษารสชาติตามธรรมชาติของเมล็ดกาแฟไว้
2. การคั่วระดับปานกลาง (Medium roast coffee)
การคั่วระดับปานกลางจะมีสีน้ำตาลปานกลางและมีรสชาติที่สมดุล มีรสหวานกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการคั่วแบบเบาและมีความเป็นกรดน้อยกว่า การคั่วระดับปานกลางทำให้เกิดความสมดุลที่ดีระหว่างการรักษาลักษณะดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟและการพัฒนารสชาติการคั่วบางอย่าง
3. การคั่วแบบเข้ม (Dark roast coffee )
การคั่วแบบเข้มจะใช้เวลาในการคั่วนานที่สุดจึงทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำและมีรสชาติที่เข้มข้น มีรสควันและขมเล็กน้อย โดยมีความเป็นกรดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการคั่วแบบเบากว่า การคั่วแบบเข้มจะใช้เวลาคั่วนานขึ้น ส่งผลให้ได้รสชาติกาแฟที่ชัดและหอมกลิ่นกาแฟแบบเต็มๆ
ทั้งนี้ทาง COFFHUB ยังนำกระบวนการคั่วกาแฟที่มีหลายขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
1. การเลือกเมล็ดสารกาแฟ (Green Coffee Bean)
เมล็ดสารกาแฟสีเขียวคุณภาพสูงจะถูกเลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น แหล่งเพาะปลูก ความหลากหลายของสายพันธ์ และคุณภาพ
2. การอุ่นเครื่อง
เครื่องคั่วจะถูกวอร์มไว้ที่อุณหภูมิที่ต้องการ โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 180 ถึง 220 องศาเซลเซียส
3. การใส่เมล็ดกาแฟ
เมล็ดสารกาแฟสีเขียวจะถูกใส่ลงในถังเครื่องคั่วหรือห้องอบ แต่จะต้องหมั่นสังเกตให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าการคั่วเมล็ดกาแฟเป็นไปตามมาตรฐานอย่างถูกต้อง
4. การคั่ว
กระบวนการคั่วเริ่มต้นขึ้น และเมล็ดกาแฟจะถูกความร้อนสูง โดยจะผ่านขั้นตอนต่างๆ ได้แก่ การอบแห้ง การเหลือง การแตกร้าวครั้งแรก และรอยแตกครั้งที่สอง แต่ละขั้นตอนจะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ
5. การตรวจสอบ
ตลอดกระบวนการคั่ว อุณหภูมิ สี และกลิ่นของเมล็ดกาแฟจะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสม่ำเสมอและระดับการคั่วที่ต้องการ
6. การทำความเย็น
เมื่อถึงระดับการคั่วที่ต้องการ เมล็ดกาแฟจะถูกทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดกระบวนการคั่ว โดยทั่วไปจะทำโดยใช้อากาศเย็นหรือวิธีการระบายความร้อนด้วยน้ำ
7. การพัก/ไล่แก๊ส
เมล็ดกาแฟคั่วสดต้องใช้เวลาสักพักเพื่อพักและลดแก๊ส วิธีนี้ช่วยให้รสชาติพัฒนาได้เต็มที่และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
8. บรรจุภัณฑ์
หลังจากพักแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกบรรจุในถุงหรือภาชนะกันลมเพื่อรักษาความสดและส่งมอบรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร