Share

ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ

Last updated: 23 Jan 2024
819 Views

ใครหลายคนอาจไม่รู้ว่าระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟจะส่งผลต่อรสชาติเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องเรียนรู้ถึงความแตกต่างที่ละเอียดอ่อน เพียงแค่อุณหภูมิที่แตกต่างกันสามารถทำให้รสชาติของเมล็ดกาแฟ เปลี่ยนแปลงได้  ทาง COFFHUB นำความรู้ความแตกต่างของระดับการคั่วเมล็ดกาแฟโดยระดับการคั่วกาแฟแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้

1.   การคั่วอ่อน (Light roast coffee)


     คั่วอ่อนมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนและมีรสชาติที่นุ่มนวลกว่า โดยยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟไว้มากขึ้น โดยมีความเป็นกรดสูงกว่าและมีกลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน โดยทั่วไปแล้วการคั่วระดับอ่อนจะใช้เวลาคั่วน้อยกว่าเพื่อรักษารสชาติตามธรรมชาติของเมล็ดกาแฟไว้

2.   การคั่วระดับปานกลาง (Medium roast coffee)


     การคั่วระดับปานกลางจะมีสีน้ำตาลปานกลางและมีรสชาติที่สมดุล มีรสหวานกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการคั่วแบบเบาและมีความเป็นกรดน้อยกว่า การคั่วระดับปานกลางทำให้เกิดความสมดุลที่ดีระหว่างการรักษาลักษณะดั้งเดิมของเมล็ดกาแฟและการพัฒนารสชาติการคั่วบางอย่าง

3.   การคั่วแบบเข้ม (Dark roast coffee )


     การคั่วแบบเข้มจะใช้เวลาในการคั่วนานที่สุดจึงทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำและมีรสชาติที่เข้มข้น มีรสควันและขมเล็กน้อย โดยมีความเป็นกรดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการคั่วแบบเบากว่า การคั่วแบบเข้มจะใช้เวลาคั่วนานขึ้น ส่งผลให้ได้รสชาติกาแฟที่ชัดและหอมกลิ่นกาแฟแบบเต็มๆ

ทั้งนี้ทาง COFFHUB ยังนำกระบวนการคั่วกาแฟที่มีหลายขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

1.   การเลือกเมล็ดสารกาแฟ (Green Coffee Bean)
เมล็ดสารกาแฟสีเขียวคุณภาพสูงจะถูกเลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น แหล่งเพาะปลูก ความหลากหลายของสายพันธ์ และคุณภาพ

2.   การอุ่นเครื่อง

เครื่องคั่วจะถูกวอร์มไว้ที่อุณหภูมิที่ต้องการ โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 180 ถึง 220 องศาเซลเซียส

3.   การใส่เมล็ดกาแฟ
เมล็ดสารกาแฟสีเขียวจะถูกใส่ลงในถังเครื่องคั่วหรือห้องอบ แต่จะต้องหมั่นสังเกตให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าการคั่วเมล็ดกาแฟเป็นไปตามมาตรฐานอย่างถูกต้อง

4.   การคั่ว
กระบวนการคั่วเริ่มต้นขึ้น และเมล็ดกาแฟจะถูกความร้อนสูง โดยจะผ่านขั้นตอนต่างๆ ได้แก่ การอบแห้ง การเหลือง การแตกร้าวครั้งแรก และรอยแตกครั้งที่สอง แต่ละขั้นตอนจะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ

5.   การตรวจสอบ
ตลอดกระบวนการคั่ว อุณหภูมิ สี และกลิ่นของเมล็ดกาแฟจะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสม่ำเสมอและระดับการคั่วที่ต้องการ

6.   การทำความเย็น
เมื่อถึงระดับการคั่วที่ต้องการ เมล็ดกาแฟจะถูกทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดกระบวนการคั่ว โดยทั่วไปจะทำโดยใช้อากาศเย็นหรือวิธีการระบายความร้อนด้วยน้ำ

7.   การพัก/ไล่แก๊ส
เมล็ดกาแฟคั่วสดต้องใช้เวลาสักพักเพื่อพักและลดแก๊ส วิธีนี้ช่วยให้รสชาติพัฒนาได้เต็มที่และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา

8.   บรรจุภัณฑ์
หลังจากพักแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกบรรจุในถุงหรือภาชนะกันลมเพื่อรักษาความสดและส่งมอบรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร


Related Content
วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟคั่วให้คงคุณภาพสดและอร่อยนาน
การเก็บเมล็ดกาแฟในภาชนะที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสดและรสชาติของเมล็ดกาแฟ หากต้องการจัดเก็บเมล็ดกาแฟอย่างเหมาะสม ทาง COFFHUB ได้นำขั้นตอนและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มีดังนี้
9 Oct 2023
การ Cupping
มือใหม่หลายๆคนคงสงสัยใช่หรือไม่ ว่าการ Cupping คืออะไร แล้วทำไปเพื่ออะไร วันนี้ทาง COFFHUB จะมาอธิบายให้คุณเข้าใจถึงการ Cupping กัน
9 Oct 2023
กาแฟ 4 สายพันธุ์ ที่ควรรู้
รู้หรือไม่? เมล็ดกาแฟนั้นคือผลไม้ กาแฟ ที่พวกเรารู้จักกันนั้นคือ เมล็ดผลของเชอร์รี่
9 Oct 2023
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว and นโยบายคุกกี้
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy